ได้ยินแล้วโคตรสะเทือนใจ น้ำตาไหลทุกครั้งกับเรื่องราวการต่อสู้ของ โอ๋ สุชาดา เจ้าของเฟสบุค Chada Soap อดีตเด็กเชียร์เบียร์เกือบใจแตก เรียนก็งูๆปลาๆ จนที่บ้านต้องขายที่นาติดหนี้เป็นล้านเพื่อมาส่งเธอเรียนสุดท้ายพ่อตายก่อน ที่เธอจะมีโอกาสได้ตอบแทน ที่น่าปวดใจ!! ยิ่งกว่าในวันที่เธอดิ้นรนแบบสุดชีวิตเพื่อที่จะช่วยทางบ้านปลดหนี้จากการที่หาเงินมาให้เธอเรียนและทำธุรกิจแต่กลับเจ้งล้มไม่เป็นท่า ทำให้ผู้เป็นแม่ตัดสินใจพูดบางสิ่งบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงโลกทั้งใบของ โอ๋ ไปตลอดการ!!!
“หนูเป็นลูกคนเล็กสุดของบ้าน มีพี่สาว1คน มีพี่ชาย1คนพ่อแม่เป็นชาวนา เป็นคนอีสาน เกิดที่จังหวัดหนองบัวลำภู และที่บ้านมีฐานะลำบากมากค่ะ จำความได้ว่าตอนเด็กๆ ที่บ้านไม่มีทีวีดู ถ้าอยากดูต้องไปดูบ้านหลังข้างๆกัน ไม่มีตู้เย็น รถยนต์ไม่มี มีแค่จักรยานคันเก่าๆ ที่พ่อใช้ปั่นไปส่งและรับที่โรงเรียน ตอนเด็กเลิกจากโรงเรียนก็ไม่ได้วิ่งเล่นเหมือนเด็กทั่วไปหรอกค่ะ พอเลิกเรียนต้องรีบไปตลาด ขายผัก และปลาที่พ่อหามาได้ ดูเหมือนจะเป็นเด็กดีและขยันใช่ไหมคะ แต่โอ๋เองเป็นคนที่ดื้อรั้น และไม่ค่อยมีความอดทน พ่อแม่ส่งเรียนกี่ที่ก็เรียนไม่จบ ไปโรงเรียนนะไป อยากเรียน อยากจบสูงๆ อยากมีการงานที่ดีทำ อยากให้พ่อแม่สบาย แต่ไม่เรียนหรืออยู่ๆขี้เกียจก็ลุกออกจากห้องเลย เพราะเป็นคนที่ไม่มีความอดทน เบื่อก็ไม่ทำ ผลาญเงินพ่อแม่เป็นว่าเล่น”
ต้องขายนาส่งลูกเรียน พ่อแม่กู้ทุกอย่างยกเว้นระเบิด!!เพื่อส่ง โอ๋ ให้มีอนาคต “ถามว่าพ่อแม่เอาเงินมาจากไหน ก็ไปกู้นอกระบบมา กู้ทุกที่ทั้งรัฐทั้งเอกชน ตอนนั้นเรียนอยู่ ปวส. ค่ะ ด้วยความพ่อแม่พี่สาวพี่ชายหวังอยากให้เรียนจบปริญญาตรี มีงานการดีๆทำ ให้คนแถวบ้านเลิกดูถูกนินทา แต่โอ๋ก็รั้น ไม่อดทนมานะในการเรียนเลย จนสุดท้ายทุกคนในบ้านยื่นคำขาดว่าไม่ส่งเรียนแล้ว เรียนไปก็คงไม่จบและไม่มีเงินทองจะให้แล้ว ถ้าอยากเรียนก็ต้องหาเงินเรียนเอง จนพ่อเสียชีวิต ก่อนพ่อจากไปพ่อบอกว่าโอ๋ต้องเรียนให้สูงๆและเลี้ยงแม่ ปลดหนี้ช่วยแม่ให้ได้”
พ่อตายจากทั้งๆที่เธอยังไม่โอกาสได้ตอบแทนบุญคุณของพ่อ ทำให้ โอ๋ ต้องดิ้นรน!! “โอ๋คิดได้ว่าเหลือแม่คนเดียวแล้วต้องดูแลให้ดีที่สุด และรู้สึกผิดมากที่ไม่ได้เป็นลูกที่ตอบแทนบุญคุณพ่อเลย จึงมาขออาศัยอยู่กับพี่ชายที่เชียงใหม่ และหางานทำ เริ่มต้นเรียน ปวส ใหม่อีกครั้ง หาที่เรียนที่ค่าเทอมถูกที่สุดและใช้เวลาเรียนน้อยที่สุด จึงเลือกเรียนแค่วันอาทิตย์เพื่อที่จะเอาเวลาที่เหลือมาทำงานหาเงิน ได้งานร้านกาแฟเงินเดือน 5500 ผ่านโปรได้ เวลาไปทำงานก็ปั่นจักรยานไปทำเพราะมีรถมอเตอร์ไซค์ 1คัน ซึ่งพี่ชายต้องใช้ทำงานเช่นกัน พอเลิกงานจากร้านกาแฟ ก็ไปทำงานร้านอาหารเป็นเด็กเชียร์เบียร์ กว่าจะเลิกงานก็เที่ยงคืน ทำงานทั้งกลางวันกลางคืนเลยค่ะ ไม่มีวันหยุด วันอาทิตย์ก็ไปเรียนหนังสือ แต่เงินเดือนที่ได้ก็ไม่พอที่จะส่งให้แม่เลย จึงได้มารู้จักธุรกิจการขายของออนไลน์ เริ่มจากการรับสินค้าที่ตัวเองใช้ ใช้ไปด้วยขายไปด้วย พอเรามีฐานลูกค้า โอ๋คิดว่าทำไมเราไม่ทำสินค้าแบรนด์เราเอง จึงให้แม่ไปหายืมเงินมาลงทุน คือไปหากู้นอกระบบมาให้ ได้เงินมาก้อนหนึ่งก็มาทำสินค้าภายใต้แบรนด์ตัวเอง”
คิดว่าทำแบรนด์สินค้าของตัวเองขึ้นมาจะสำเร็จ จะเจ๋งจะเท่ห์ แต่ที่ไหน โอ๋ กลับเจ้งไม่เป็นท่า…จอดแบบไม่ต้องแจวกันเลยทีเดียว “หลังจากที่ทำแบรนด์ของตัวเองมันก็ไม่ดัง เปรี้ยงปร้างนะคะ ทุนก็จม เงินที่ให้แม่กู้มาดอกก็เพิ่มขึ้น เงินก็ไม่มีจ่าย กลายเป็นว่าติดหนี้มากกว่าเดิม แต่โอ๋ก็ไม่ถอยค่ะ เพราะคิดว่าธุรกิจสบู่ที่ทำอยู่มันเป็นทางที่จะทำให้โอ๋มีเงิน พาครอบครัวสบาย และปลดหนี้ช่วยแม่ได้ ก็ยืนหยัดจะสู้ต่อ คิดอยู่นานจะหาเงินมาจากไหนอีก จึงตัดสินใจไปคุยกับแม่ให้แม่หาเงินให้อีกก้อน พูดกับแม่เลยว่า เงินก้อนนี้จะเป็นเงินก้อนสุดท้ายที่หนูจะเอาจากแม่ ไปหามาให้หน่อย จะปรับปรุงสูตรสบู่ จะปรับการตลาด เปลี่ยนโฉมสินค้าอะไรก็ว่าไปและต่อไปนี้บาทเดียวก็จะไม่ขอ มีแต่จะให้”
กลับมาลุยธุรกิจใหม่อีกรอบ แต่เจออุปสรรคเยอะมาก จนวันหนึ่งที่เธอท้อแท้แบบสุดๆ วันนั้นแม่ของ โอ๋ ได้พูดอะไรบางอย่างกับลูกสาวที่ทำเอาเจ้าตัวน้ำตาตกใน เปลี่ยนโลกทั้งใบของโอ๋ ไปตลอดการ ทำให้เจ้าตัวลุกขึ้นมาสู้แก้ปัญหาจนพบทางออก!! “แม่ก็ไปหาเงินมาจนได้ และพอได้เงินมาก็เริ่มเลยค่ะ ผลิตสบู่สูตรใหม่แต่ชื่อเดิม เปลี่ยนสีก้อนสูตร เปลี่ยนการตลาด แต่ก็ยังไม่เปรี้ยงเท่าที่ควรค่ะแต่ดีกว่าครั้งแรก หนูก็เริ่มใช้หนี้ให้แม่ได้นิดหน่อย แต่ก็เหนื่อยมากค่ะโดนรังแกเยอะ โดนเอาเบอร์ไปแปะไว้บนเว็บโป๊ มีคนโทรมาขอซื้อบริการมากมาย โดนใส่ร้ายหาว่าโอนเงินมาแล้วไม่ได้สบู่ จากใครก็ไม่รู้แหล่ะอาจจะคู่แข่ง จนแม่สงสารแม่บอกว่าพอได้ไหม!! หยุดเถอะ!! เลิกทำไปตั้งใจเรียนให้จบ ไปหาเงินทำที่มั่นคงเงินเดือนแค่หมื่นห้าแม่ก็สบายใจแล้ว ถ้าลูกมีการมีงานทำเป็นหลักเป็นแหล่ง “ไม่ต้องห่วงหนี้สินของแม่หรอก เดียวแม่ตายก็คงใช้หมดเพราะแม่ทำประกันไว้” คือยิ่งได้ฟังแบบนี้ยิ่งจุกค่ะ เพราะหนี้บางส่วนก็มาจากเรา จากการที่พ่อแม่ไปกู้มาส่งเราเรียนให้เรามีกินมีใช้ไม่น้อยหน้าใคร ประโยคคำพูดที่ออกมาจากใจแม่วันนั้นเหมือนโอ๋ ถูกเอาไม้หน้าสามฟาดเข้าหน้าอย่างจริงจัง ไม่ได้แล้วนะโอ๋ พ่อตายเรายังตอบแทนพ่ออะไรไม่ได้ เกิดวันหนึ่งแม่ด่วนจากไปโดยที่เราไม่ได้ทำอะไรเพื่อเขา ไม่ได้แล้วนะ เลยลุกท้าชีวิต ตายเป็นตายงานนี้ถึงไหนถึงกันเพราะเกิดเป็นลูกที่แม่ยอมทำได้ทุกอย่างได้เพื่อเรา ไม่สู้เพื่อเขามันก็หมาแล้ว!!”
“กัดฟันสู้!! นอนร้องไห้แทบทุกคืนว่าทำไมต้องลำบากขนาดนี้ ทำไมต้องทำให้แม่ให้พ่อเหนื่อย แต่ถอยไม่ได้สู้เดินหน้าสู้อย่างเดียว ไม้รู้หรอกมันจะสำเร็จไหม แต่โอ๋เป็นคนรั้นและเด็ดเดี่ยว จะเอาคือเอาต้องได้ ต้องทำให้ได้ และนึกถึงนาทีที่พ่อจะจากไปนึกถึงคำพูดของคนที่ดูถูกว่าชาตินี้จะไม่มีวันรวยถ้าไม่ได้ผัวรวย จะให้รวยเองไม่มีทาง มีคนพูดแบบนี้ใส่หน้าจริงๆ นึกถึงญาติพี่น้องที่เค้าไม่นับญาติเพราะเราจน ครอบครัวเราจน เค้าดูถูกดูแคลน คิดถึงตอนเด็กที่ลำบากมาก มากจนไม่มีเงินซื้อผงซักฟอกจนพ่อต้องไปขอยืมป้าข้างบ้าน ไม่มีทีวีดู คิดว่าต้องได้ดี ต้องมีเงิน ต้องใช้หนี้ให้แม่ให้หมด ต้องให้แม่สบาย ก็มีแรงสู้กับปัญหาต่างๆ ซึ่งจากแรงบันดาลใจ ตรงนี้ ทำให้ โอ๋ ทำสำเร็จ!!! เดินหน้าธุรกิจที่สร้างขึ้นมาซึ่งทำท่าจะไปไม่รอดกลับมาทำกำไร ลูกค้าเยอะมาก ปลดหนี้เป็นล้านให้แม่ได้สำเร็จ!! โอ๋ เชื่อนะคะว่าลูกทุกคนล้วนอยากตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ แต่อย่ารอโอกาสเราต้องวิ่งเข้าหามัน อย่าอายทำกิน ทำไปเหอะถ้ามันเป็นงานสุจริตแล้วทำให้เรารวย เพราะวันที่เราสบายหรือวันที่เราประสบความสำเร็จมันอาจจะสายไปแล้ว โอ๋ ไม่อยากไปจุดธูปไปบอกคนที่เรารักมากที่สุดซึ่งอยู่บนสวรรค์ว่า พ่อโอ๋ประสบความสำเร็จแล้วนะ !!โอ๋เสียพ่อไปตอนที่เรายังย่ำแย่ แต่วันนี้ ตรงนี้ ณ เวลานี้ โอ๋บอกกับแม่ในช่วงที่เขายังมีชีวิตว่าแม่หนูได้แล้ว!!” ขอบคุณและติดตามเรื่องราว โอ๋ สุชาดา ได้ที่เฟสบุ๊ค Chada Soap
ที่ม:http://www.thaihothit.com/hot-news/4987.html
