เปิดใจ (มิ้นต์ นางงามเก็บขยะ) ยอม (อด) เพื่อให้ (ครอบครัว) ได้ (อิ่ม)



เปิดใจ “มิ้นต์ นางงามเก็บขยะ” ยอม “อด” เพื่อให้ “ครอบครัว” ได้ “อิ่ม”   

        บางทีชีวิตจริงก็โหดร้ายยิ่งกว่าละคร ล่าสุดเป็นประเด็นสนั่นโซเชี่ยล “น้องมิ้นต์-ขนิษฐา ผาแสง” อายุ 17 ปี เจ้าของตำแหน่งมิสอันเซ็นเซอร์นิวส์ไทยแลนด์ (Miss Uncensored News Thailand) หรือที่ชาวเน็ตตั้งฉายาให้เธอว่า “นางงามเก็บขยะ” วันนี้รายการ “เปิดโปง” ทาง “ช่อง 2” ข่าวลึก บันเทิงร้อน ขอเปิดชีวิตเบื้องลึกของน้องมิ้นต์ที่ต้องจำใจลาออกจากโรงเรียนเพราะความจน ทำงานช่วย “แม่” เก็บขยะขาย เลี้ยงปากท้อง ยอม “อด” เพื่อให้ “น้อง” ทั้ง 2 ของเธอได้ “อิ่ม” 
ครอบครัวเรามีทั้งหมดกี่คน ? 
        “ตอนนี้มีทั้งหมด 5 คนค่ะ พ่อ แม่ ตัวมิ้นต์เอง แล้วก็น้องชายอีก 2 คน ส่วนพี่ชายคนโตนี่แยกไปมีครอบครรัวแล้วค่ะ” 
คุณพ่อแท้ๆ ? 
        “คุณพ่อไม่ใช่พ่อแท้ๆ ค่ะ เป็นพ่อเลี้ยง คุณพ่อกับแม่หนูเลิกกันตั้งแต่หนูอายุน้อยๆ” 
ใครเป็นเสาหลักของบ้าน ? 
        “พ่อเลี้ยงค่ะ มีอาชีพรับจ้างขับรถทั่วไปค่ะ คุณแม่ก็ขายเสื้อผ้ามือ 2 แล้วก็เก็บขวดขาย ส่วนตัวหนูก็จะช่วยคุณแม่แยกขยะ เวลาคุณแม่ไปเก็บขยะมา คุณแม่จะเป็นคนเอาไปขาย” 
หนูคัดแยกขยะยังไง ? 
        “ขวดแก้วก็เอาไว้อีกถุงหนึ่ง พวกเศษกระดาษ หรือเหล็กก็แยกเป็นถุงๆ ไว้ค่ะ แล้วก็ให้คุณแม่เอาไปขายค่ะ” 
ขายได้เยอะไหมวันๆ หนึ่ง ? 
        “ก็ไม่เยอะเท่าไหร่” 
พอใช้ไหม ? 
        “พอใช้ไปวันๆ ค่ะ” 
อายไหม เป็นลูกสาวของคนเก็บขยะ ? 
        “ไม่อายนะคะเป็นอาชีพสุจริต อายทำไมคะ มันคือการทำมาหากินโตมาได้ก็เพราะอาชีพเก็บขยะ แล้วก็ขายเสื้อผ้ามือ 2 ไม่เห็นจะต้องอายกับการทำกินเลยค่ะ” 
เพื่อนๆ ที่โรงเรียน รู้ไหมว่าเราต้องเก็บขยะ ? 
        “ไม่รู้ค่ะ เพราะหนูก็ไม่ได้เล่าอะไร” 
เพื่อนๆ แถวบ้านล้อไหม ลูกคนเก็บขยะ ? 
        “ไม่มีค่ะ เพราะว่าหนูเป็นคนชอบอยู่คนเดียว” 
ขอถามถึงเงินรางวัลที่ได้จากการประกวด ใช้อะไรบ้าง ? 
        “ก็ให้คุณแม่เก็บค่ะ ไปจ่ายค่าเทอมน้องแล้วก็ใช้หนี้ ถามว่ารู้ไหมว่าหนี้(นอกระบบ)เยอะแค่ไหน ก็เยอะพอสมควรค่ะ เงินรางวัลที่ได้มาถามว่าใช้พอไหม ไม่พอค่ะ” 
เห็นว่าเราต้องเลิกเรียน เพื่อให้น้องได้เรียน ? 
        “เป็นความจริงค่ะ หนูออกโรงเรียนตั้งแต่ ม.2 ด้วยความที่ทางบ้านก็ฐานะยากจนไม่มีเงินที่จะให้ไปเรียนต่อ หนูเลยออกมาทำงาน” 
ก็คือไม่จบ ม.3 ด้วย เรียนแค่ ม.2 แล้วลาออก ? 
        “ใช่ค่ะ หนูตัดสินใจลาออกเองค่ะ อยากออกมาช่วยเหลือครอบครัว เพราะว่าแม่ก็มีน้องเล็กอีก 2 คน ค่าใช้จ่ายมันก็ไม่พอ หนูก็ออกมาช่วยแม่เก็บขวดขาย ขายเสื้อผ้ามือ 2 แล้วก็หนูก็เป็นแดนซ์เซอร์มาก่อนด้วยค่ะ(ยิ้ม)” 
ตอนที่ลาออกจากโรงเรียนครูว่าไง ? 
        “หนูก็บอกว่าหนูมีเหตุจำเป็นที่ต้องลาออก บอกอาจารย์ไปประมาณนี้ เขาก็ไม่อยากให้ออก เขาก็บอกให้เรียนต่อ แต่ด้วยทางบ้านหนูยากจน หนูก็ขอออกมาหางานทำดีกว่า แล้วก็มาเรียน กศน.เอาค่ะ(เรียน กศน.จนได้วุฒิ ม.3)” 
เสียใจไหม ที่ไม่ได้เรียนแบบเพื่อน ? 
        “ก็เสียใจนะคะ ทางบ้านเราก็ไม่ได้มีฐานะที่ได้เรียนเหมือนเพื่อน แต่ถามว่าอายเพื่อนไหมก็อายนะคะ ไม่ได้เรียนต่อเหมือนเขา อายแต่เราก็ต้องตัดสินใจออกมาช่วยเหลือครอบครัว” 
ร้องไห้ไหม ? 
        “ร้องค่ะ แต่หนูก็ต้องเข้าใจเพราะครอบครัวหนูยากจน มีน้อง 2 คนที่ต้องเรียน หนูเสียสละเอาตัวหนูออกดีกว่า มาหางานทำงานเลี้ยงน้อง 2 คน แล้วก็ครอบครัว” 
แม่รู้ไหมเราร้องไห้ ? 
        “ก็มีแอบร้องบ้าง แม่รู้บ้าง แม่ก็บอกว่าให้สู้ๆ อดทนเอานะบ้านเราเกิดมาได้ได้ฐานะร่ำรวยเหมือนใครเขา เราก็ต้องอดทนสู้ ต้องอดทนไว้” 
คิดจะกลับไปเรียไหม คิดจะต่อจนไปมหาวิทยาลัยรึป่าว ? 
        “ต่อค่ะ อยากเรียนให้สูงๆ         ” 
อยากบอกอะไรคุณแม่ไหม กับสิ่งที่หนูทำ ? 
        “งานที่หนูทำ หนูก็ตั้งใจทำเพื่อหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว ถึงแม่ว่างานจะเสี่ยงอันตราย หรือว่าลำบาก หนูก็จะอดทนสู้เพื่อครอบครัว แล้วก็น้องอีก 2 คนด้วยค่ะ” 
ใช้อะไรเป็นกำลังใจในการสู้ชีวิต ? 
        “ที่บ้านหนูยากจนค่ะ หนูเลยต้องอดทนสู้ไม่ว่างานจะหนัก จะเหนื่อยแค่ไหน หนูก็ต้องทนแล้วก็สู้ เดี่ยวมันก็จะผ่านไปด้วยดี เดี๋ยวเราก็มีสิ่งดีๆ เข้ามา” 
มีบ้างไหม วันที่ไม่มีอะไรจะกิน ? 
        “มีบ้าง มีน้ำพริกผักบ้าง มาม่าไข่ต้ม” 
อยากกินแต่กินไม่ได้ เค้ก ช็อกโกแล็ต ? 
        “มีบ้าง แต่เราก็ต้องนึกถึงครอบครัวเป็นหลัก เราหาเงินมายาก ก็ต้องใช้เงินให้ประหยัดที่สุด เราก็ต้องซื้อของที่ครอบครัวเรากินได้ด้วย มากินด้วยกัน” 
อดข้าว กินไม่ครบ 3 มื้อ ? 
        “ไม่ครบค่ะ ช่วงเช้าก็จะกินมาม่า ไข่ทอด น้ำพริกผัก ก็ให้น้องกินไข่ เพราะว่าตัวหนูก็กินเผ็ดได้ ถามว่ามีอดบ้างไหม ก็มีค่ะ อยากให้น้องอิ่มตัวเราไม่อิ่มก็ไม่เป็นไร เรายอมอดได้เพื่อน้อง เพราะน้องก็ยังเล็กอยู่” 
วันหนึ่งต้องใช้เงินเท่าไหร่ ? 
        “ใช้ให้น้อยที่สุด ประหยัดให้ได้มากที่สุด เพราะว่าต้องเก็บไว้ใช้ในวันต่อๆ ไปด้วย เงินมันก็หามายาก” 
ตอนนี้มีตำแหน่ง มีคนยกย่อง ยอมรับมีอะไรเปลี่ยไปไหม ? 
        “เปลี่ยนมากค่ะ จากเด็กกองขยะคนหนึ่งได้มาทำงาน ได้เข้าสู่วงการ ถามว่าหนักไหม ก็หนักค่ะ เหนื่อย แต่เราก็ต้องอดทนแล้วก็สู้กับอุปสรรค์ที่เราต้องเจอเพราะนี่มันก็เป็นแค่ก้าวแรก มันยังมีอีกเยอะ” 
“นางงามเก็บขยะ” คิดยังไงกับคำนี้ ? 
        “ภูมิใจนะคะ มันเป็นอาชีพที่หนูโตมาได้ จะอายทำไมกับคำพูดของคนที่เขาเรียกเรานางงามขยะ” 








ที่ม:http://entertain.teenee.com/thaistar/140505.html


Share :

Facebook Twitter Google+
Back To Top